Seed Keyword

สำหรับใครที่สนใจวิธีทำ SEO แล้วคลิกมาอ่านบทความนี้ อาจจะเกิดความสงสัยแล้วล่ะว่า Seed Keyword คืออะไร เพราะในบทความก่อนๆ AMPROSEO ได้พูดถึงการทำ Keyword Research ในหลายๆ ประเภทไปแล้ว พอมาถึงตัว Seed Keyword นี่เลยอาจจะทำให้ไม่แน่ใจเลยว่า มันคืออะไร จะหายังไง และจะนำมาใช้ในการทำ SEO ต่อยังไงบ้าง เอาล่ะ! ไม่ต้องไปนั่งหาข้อมูลเองให้เสียเวลาแล้วนะ เพราะ AMPROSEO รวบรวมเอาทุกเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับ Seed Keyword มาให้แล้วในบทความนี้ ถ้าอยากเข้าใจก็ตามไปอ่านต่อได้เลย!

Seed Keyword คืออะไร หายังไง แนะนำวิธีการใช้คีย์เวิร์ดสำหรับทำ SEO แบบละเอียด

Seed Keyword คืออะไร

Seed Keyword คือ คีย์เวิร์ดประเภทหนึ่งที่มีความเกี่ยวข้องกับเป้าหมายของเว็บไซต์ โดยอาจจะเป็นคีย์เวิร์ดของสินค้า บริการ หรือเป็นคำที่กลุ่ม Target ใช้ในการค้นหา และ Seed Keyword เองมักจะเป็นคำที่ใช้เสิร์ชแบบกว้างๆ ไม่เฉพาะเจาะจง ทำให้เป็น Keyword ที่มี Search Volume (ปริมาณการค้นหา) ที่สูง แต่ก็ด้วยความเป็นคำค้นหาที่กว้างๆ นี่แหละทำให้ใครก็เข้ามาแข่งใน Keyword นี้ เรียกว่าเป็น Red Ocean ที่เอาชนะได้ยาก แถม Seed Keyword ก็อาจจะไม่ได้เป็นคีย์เวิร์ดที่ทำเงินให้ได้ เพราะคนค้นหาคำนั้นๆ ก็อาจจะไม่ได้สนใจจะซื้อสินค้าหรือบริการของคุณจริงๆ

ยกตัวอย่างเช่น คุณทำธุรกิจขายเสื้อผ้าแฟชั่น คำที่เป็น Seed keyword ก็คือ เสื้อ หรืออาจจะเป็นประเภทเสื้อ เช่น เสื้อกันหนาว เสื้อยืด ซึ่งคำเหล่านี้ที่คนค้นหาอาจจะมี Search Intent ที่หลากหลาย เช่น หาไอเดียการแต่งตัวด้วยเสื้อในแบบที่สนใจ หาพื้นที่ขายเสื้อ หาโรงงานทำเสื้อ ฯลฯ ทำให้ Keyword เหล่านี้มี Search Volume ที่สูง แต่คนที่ค้นหาก็อาจจะไม่ใช่กลุ่มที่จะซื้อสินค้าหรือบริการของคุณจริงๆ ก็ได้ด้วยเหมือนกัน

Seed Keyword ต่างกับ Keyword ประเภทอื่นๆ ยังไง

เรารู้ไปแล้วว่า Seed Keyword คือ คำค้นหาแบบกว้างๆ แล้วมันต่างจาก Keyword ประเภทอื่นๆ ยังไง ลองมาดูกันเลยดีกว่าว่า Keyword อื่นๆ มีแบบไหนบ้าง

  • Long-tail keyword คือ Keyword ที่เป็นคำยาวๆ มีความเฉพาะเจาะจงสูง เช่า เจาะจงรุ่นของสินค้า ราคา ปี หรือเป็นคำที่บอกถึงกลุ่มหรือหมวดหมู่สินค้าและบทความ ซึ่งอาจจะมี Search Volume เยอะหรือน้อยก็ได้ (แต่ส่วนมากจะน้อยกว่าคำที่เป็น Seed Keyword)
  • LSI keyword คือ คำหรือวลีที่เกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ดหลัก เขียนขึ้นเพื่อให้ Google เข้าใจว่าหน้านั้นกำลังพูดถึงอะไร เช่น คุณเขียนคอนเทนต์เกี่ยวกับเสือจากัวร์ก็อาจจะต้องใส่ LSI keyword เป็นคำว่า สัตว์ สายพันธุ์ เสือ แต่ถ้าพูดถึงจากัวร์ที่เป็นยี่ห้อรถก็ต้องใส่เป็นคำจำพวก รุ่นรถยนต์ ปีรถ เครื่องยนต์ ฯลฯ
  • Search intent keyword คือ คีย์เวิร์ดที่แบ่งเป็นประเภทตามวัตถุประสงค์ของการค้นหา แบ่งเป็น…
    • Informational Keyword – จะเป็นคีย์เวิร์ดที่ใช้หาข้อมูล เช่น …คืออะไร,  วันหยุดปี…, …เปิดกี่โมง ฯลฯ
    • Navigational Keyword– จะเป็นคีย์เวิร์ดที่ค้นหาเพื่อนำทางไปสู่เว็บไซต์ที่ต้องการ เช่น Facebook login, วงใน รีวิว เป็นต้น
    • Commercial Keyword – จะเป็นคีย์เวิร์ดที่ค้นหาตัวเลือกเพื่อตัดสินใจ เช่น …รีวิว, …รุ่นไหนดี ฯลฯ
    • Transactional Keyword – จะเป็นคีย์เวิร์ดที่ค้นหาเพื่อเจาะจงว่าจะซื้อหรือทำอะไรบางอย่างที่นำไปสู่ Conversion โดยมักมีคำที่บ่งบอกความต้องการ เช่น ซื้อ จอง เช่า ขาย ฯลฯ

Seed Keyword สำคัญกับการทำ SEO ยังไง

อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนอาจจะสงสัยว่าแล้ว Seed Keyword สำคัญกับการทำ SEO ยังไง ในเมื่อเป็นคำที่คนหากันแบบกว้างๆ ไม่เฉพาะเจาะจง แถมทำการแข่งขันด้วยยาก เราจำเป็นต้องสนใจ Keyword ประเภทนี้ด้วยหรือเปล่า?

สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มทำ SEO เมื่อพูดว่า จะใช้ Keyword อะไรดีในการทำ? ตอนแรกอาจจะคิดกันไม่ออก และนี่เองเป็นส่วนสำคัญที่จะนำ Seed Keyword มาใช้ เพราะนี่คือคำง่ายๆ สั้นๆ ที่มีคนค้นหา เราจึงสามารถหยิบคำเหล่านี้มาเป็นไอเดียตั้งต้นในการหา Keyword ประเภทอื่นๆ ต่อไปได้ง่ายมากขึ้น ดังนั้น ลองนึกเล่นๆ ดูซิว่า ธุรกิจของคุณมี Seed Keyword เป็นคำว่าอะไรบ้าง เพื่อนำ Keyword เหล่านั้นมาทำเป็น Content Pillar ที่รวบรวมเนื้อหาใน Keyword หลักๆ ของเว็บไซต์เอาไว้ ทำให้เพิ่มโอกาสในการติดอันดับต้นๆ ใน Keyword ที่ทำการแข่งขันได้ยากนั่นเอง

จะหา Seed Keyword ได้ยังไง ดูวิธีหาและเครื่องมือที่ต้องใช้

แล้วจะหา Seed Keyword ได้ยังไงบ้าง? แน่นอนว่าก็ต้องใช้วิธีการทำ Keyword Research เข้าช่วย โดยการเลือกหยิบเอาเครื่องมือ SEO ต่างๆ เช่น Rankmath, Ahrefs, Ubersuggest เป็นต้น เพื่อนำมาใช้ในการหา Keyword แต่เครื่องมือเหล่านี้มีรูปแบบการใช้ฟรีจำกัด หากต้องการใช้ตัวเต็มอาจจะต้องเสียเงินซื้อสักหน่อย ส่วนใครที่เป็นสายฟรี AMPROSEO ก็มีวิธีการหา Seed Keyword แบบง่ายๆ มาฝากด้วยเช่นกัน ตามไปดูกันเลยนะฮิปปป!

หา Seed Keyword ฟรีด้วย Google

วิธีแรกเป็นการหา Seed Keyword แบบง่ายๆ ด้วยการเข้าไปที่ Google แล้วพิมพ์คำค้นหาที่คุณคิดว่าคนจะใช้เกี่ยวกับสินค้าหรือบริการของคุณ หลังจากนั้นลองเลื่อนหา Google’s related searches หรือ People also ask เพื่อดูว่า Google ได้ทำการ Suggest คำค้นหาใกล้เคียงอะไรมาให้บ้าง

หา Seed Keyword ฟรีด้วย Google

ยกตัวอย่างเช่น คุณพิมพ์คำค้นหาว่า road bike ซึ่งคิดว่าเป็น Seed keyword ที่คนน่าจะใช้ในการค้นหา แต่เมื่อเลื่อนลงมาดูที่ People also ask จะเห็นคำใกล้เคียงอย่าง Mountain bike มาให้ด้วย ซึ่งคุณสามารถนำคำนี้ไปแตกเป็นไอเดียต่อได้

Google’s related searches

หรือถ้าเลื่อนลงมาข้างล่างจะเจอกับ Google’s related searches ที่จะขึ้นคำใกล้เคียงอื่นๆ มาให้เพิ่มเติม อย่างเช่น Gravel bike, Hybrid bike ฯลฯ ที่เป็น Seed keyword ซึ่งนำมาค้นหา Search Volume เพิ่มเติมได้ด้วยเหมือนกัน

ดู Seed keyword ที่ Google Search Console

สำหรับใครที่ทำเว็บไซต์และ SEO มาสักพักก็จะพอมี Data ใน Google Search Console ให้นำมาเลือกดู Seed keyword ได้ด้วย ลองกดเข้าไปที่ Search Result กดที่ Queries และ เลือกดู Impression สูงๆ ดูก็จะเห็นว่ามี Seed keyword อะไรที่เว็บไซต์ติดอยู่บ้าง หากอันดับไม่ดีก็อาจจะนำคำเหล่านี้มาเป็นไอเดียในการทำ SEO Audit ต่อไป

หา Seed keyword ด้วย SEO Tools

ใครที่มี SEO Tools แล้วก็ลองเอามาใช้หา Seed keyword ได้ ยกตัวอย่างเช่น การใช้เครื่องมือ Ahrefs ในการหา โดยการใช้ฟีเจอร์ Competitors ของ Ahrefs ดังนี้

หา Seed keyword ด้วย SEO Tools

ถ้าเริ่มต้นไม่ถูก แต่มี SEO tools อย่าง Ahrefs ก็ลองใช้เครื่องมือส่องคู่แข่งดูว่า พวกเขาใช้คีย์เวิร์ดอะไรบนเว็บไซต์บ้าง ด้วยการเข้าไปที่ Site Explorer หลังจากนั้นพิมพ์โดเมนของเว็บไซต์คู่แข่งลงไป หลังจากนั้นเลือกที่ Organic Keyword แล้วลองใช้ Filter ในการ Scope กลุ่มของ Keyword ที่น่าจะเป็น Seed Keyword ของคู่แข่งออกมาด้วยการกำหนด Word Count ที่อาจจะเน้นเป็นกลุ่มคำสั้นๆ 1-2 คำ แล้วลองค้นหาผ่านการกดที่ Volume เพื่อค้นหา Search Volume ที่มีเยอะๆ แล้วดูว่า Keyword ไหนที่เหมาะจะหยิบมาใช้กับเว็บไซต์ของคุณบ้าง

สรุป

สรุปแล้ว Seed keyword คือ คำคีย์เวิร์ดที่มีปริมาณคำค้นหาสูง เป็นคำที่ไม่เฉพาะเจาะจง และอาจทำการแข่งขันยาก แต่ก็ยังเป็นประเภท Keyword ที่สำคัญสำหรับการใช้เป็นธีมหรือไอเดียในการทำคอนเทนต์ได้ง่ายและเกาะกลุ่มกันมากขึ้น ทำให้การวางแผนการทำ SEO มีแบบแผนในการเริ่มต้นทำเว็บไซต์หรือบทความ ไม่เกิดการแตกแถวของ Keyword ทำให้เพิ่มโอกาสในการทำ Link Building ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย

เขียนโดย: น้อง Hippo
น้อง Hippo
บล็อกนี้ เป็นแหล่งรวมความรู้ SEO และการตลาดออนไลน์ที่ครบครันที่สุด อ่านแล้วนำไปใช้ได้จริง พัฒนาทักษะของคุณให้เติบโต