Rich Snippets
เวลาที่ค้นหาอะไรใน Google คุณได้เห็นบางอย่างที่ทำให้ผลลัพธ์การค้นหาดูโดดเด่นสะดุดตาเหมือนภาพตัวอย่างด้านบนเพิ่มเข้ามาหรือเปล่า?
และนี่แหละคือ สิ่งที่ AMPROSEO จะเอามานำเสนอในวันนี้ ซึ่งก็คือสิ่งที่เรียกว่า Rich Snippets โดยนับเป็นส่วนที่ Google เพิ่มเข้ามาในหน้าแรกของ SERPs ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่าเป็นอันดับ 0 ที่เป็นผลการค้นหาเหนือกว่าอันดับ 1 ขึ้นมา และผลลัพธ์ที่ว่านี้ไม่ใช่ส่วนโฆษณาที่ต้องจ่ายเงินอีกด้วย
ได้ยินแบบนี้แล้วหลายคนอาจจะอยากรู้แล้วว่า Rich Snippets คืออะไร และเจ้าอันดับ 0 นี้ต้องทำอย่างไรถึงจะได้มา ลองมาดูสรุปจาก น้องฮิปโป พร้อมทั้งดูตัวอย่างการทำ Rich Snippets ไปพร้อมๆ กันเลยดีกว่า รับรองว่าอ่านจบจะสามารถเข้าใจกระบวนการเกิดอันดับ 0 ที่ Google ทำขึ้นมาได้อย่างแน่นอน
Rich Snippets คืออะไร?
Rich Snippets คือ ฟีเจอร์แสดงตัวอย่างข้อมูลที่เราค้นหาจากเว็บไซต์ที่ Google คัดเลือกมาแล้วว่าตรงกับคำตอบของ User มากที่สุด มันจะมาในรูปแบบการ์ดข้อมูล การตอบคำถามหรืออื่นๆ และจะอยู่บนสุดเหนืออันดับ 1 คนทำ SEO จึงเรียกกันว่าเป็นอันดับ 0 หรือ Zero Position
ฟังดูแล้วรู้สึกคันไม้คันมืออยากลองทำกันเลยใช่ไหมล่ะ
แต่เรื่องมันไม่ง่ายอย่างนั้น เพราะการขึ้นไปอยู่อันดับ 0 นั้นมีปัจจัยมากมายหลายอย่าง เยอะซะจนตอนนี้คนทำ SEO หลายคนก็ตอบไม่ได้ว่าต้องทำยังไงกันแน่
อย่างที่บอกไปว่ามันเป็นสิ่งที่ Google เลือกมาว่าตอบโจทย์ได้ดีที่สุด แล้วยังตอบได้หลากหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับลักษณะคำถาม ซึ่งจะมีการแสดงข้อมูลออกมาทั้งในรูปแบบให้ข้อมูลเป็นย่อหน้า แสดงเป็นวิดีโอ เป็นลิสต์บอกขั้นตอน หรืออาจจะเป็นตารางก็ได้เช่นกัน
ประโยชน์ของ Rich Snippets
แน่นอนว่าประโยชน์อย่างแรกที่ Rich Snippets สร้างมาก็เพื่อให้ User ไม่ต้องเสียเวลาตามหาข้อมูลหรือคำตอบด้วยการเปิดเข้าไปหน้าเว็บไซต์ทีละเว็บไซต์เพื่อหาข้อมูลที่ต้องการ เพราะ Google อยากให้ User สามารถหาคำตอบที่ตรงใจได้อย่างรวดเร็วด้วยการรีวิวบอกก่อนว่า คำตอบที่ตรงกับคำถามของคุณมากที่สุดคืออะไร
ซึ่งสำหรับเว็บไซต์ที่ได้ขึ้นมาอยู่เป็น Rich Snippets นั้นเรียกว่าเหมือนได้พื้นที่โฆษณาตัวเองมาช่วยกระตุ้นให้คนอยากจะกดเข้าไปดูคำตอบหรือเนื้อหาเพิ่มเติมว่ามีอะไรอีก
และ น้องฮิปโป เองก็เชื่อว่าคนทำ SEO ต่างก็ต้องอยากทำ Rich Snippets เพื่อเรียกให้คนเข้ามายังเว็บไซต์มากขึ้น ดังนั้น เราจะปล่อยผ่านประโยชน์จากการทำ Rich Snippets นี้ไปไม่ได้ ลองมาดูกันต่อดีกว่าว่า Rich Snippets ที่น่าสนใจนั้นมีแบบไหนบ้าง และเราสามารถปรับให้เว็บไซต์ติด Rich Snippets ได้อย่างไรในหัวข้อถัดไปเลย
ตัวอย่าง Rich Snippets ที่น่าสนใจ
อย่างที่ น้องฮิปโป ได้บอกไปแล้วว่า Rich Snippets มีประโยชน์ในแง่ของการสร้าง User Experience ที่ดีให้กับผู้ใช้งาน Google ซึ่งตามหาข้อมูลที่หลากหลายรูปแบบเพื่อคำตอบถามหรือข้อสงสัยให้ได้มากที่สุด ดังนั้น Rich Snippets จึงจำเป็นที่จะต้องมีหลากหลายรูปแบบ ตามความเหมาะสมในการนำเสนอ
และนี่คือตัวอย่างของ Rich Snippets ที่น่าสนใจในแต่ละประเภท มาดูกันดีกว่าว่า Rich Snippets นี้สามารถนำเสนอออกมาในรูปแบบไหนได้บ้าง
Product Markup Snippet
เมื่อ User ต้องการหารายละเอียดเกี่ยวกับสินค้าบางอย่าง Google ก็จะรวบรวมและนำเสนออย่างเต็มที่บน Rich Snippets ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลพื้นฐาน รูปภาพ ราคา คะแนนรีวิวหรือสถานะของสินค้าว่ายังมีอยู่ไหม สิ่งนี้จะเรียกกันว่า Product Markup Snippet
FAQ Snippet
กรณีเราถามเป็นคำถามหรือถามบางอย่างที่อาจมีความเกี่ยวข้องทำให้คุณต้องหาคำตอบเพิ่มอีก Google ก็เตรียม Rich Snippets ที่เรียกว่า FAQ Snippet ซึ่งจะช่วยเรียงคำถามที่คุณอาจจะอยากรู้มาให้พร้อมหาคำตอบได้เลยในทันที
Review Snippet
เดี๋ยวนี้ก่อนซื้อสินค้า หลายคนที่ตามหารีวิวมาดูก่อนการตัดสินใจ Google เองก็เข้าใจดังนั้นเมื่อเราหารีวิวสินค้าหรือบริการก็จะมี Rich Snippets ที่เรียกกันว่า Review Snippet ที่จะช่วยในการแสดงคะแนนรีวิวมาให้เลย
Recipe Snippet
สูตรอาหารเป็นเรื่องที่หาได้ง่ายมากบน Google แต่การจะทำอาหารมันมีเรื่องราวยิบย่อยให้ตัดสินใจมากกว่านั้น Rich Snippets ที่ชื่อว่า Recipe Snippet จึงถูกออกแบบมาให้บอกคุณก่อนเลยว่าสูตรนี้ได้รับคะแนนรีวิวเท่าไหร่จากจำนวนคนรีวิวเท่าไหร่ ไปจนถึงบอกช่วงเวลาที่ใช้ในการปรุงเท่าไหร่หรือกระทั่งแคลอรี่ของเมนูอาหารนั้นเป็นเท่าไหร่
Movie Snippet
เรื่องความบันเทิงก็ไม่น้อยหน้าเพราะยังมี Rich Snippets ภายใต้ชื่อ Movie Snippet สำหรับคอภาพยนตร์ ซีรีส์หรือรายการทีวีอื่นๆ โดยจะมีบอกข้อมูลเกี่ยวกับวันเวลาที่ฉาย รอบฉาย ประเภทพร้อมกับคะแนนรีวิวด้วย
Event Snippet
พวกงานแสดงสินค้า แสดงคอนเสิร์ต อีเวนต์พวกนี้ Google ก็ยังเตรียมเอา Rich Snippets ที่เรียกกันว่า Event Snippet ไว้ให้ด้วย โดยจะแสดงข้อมูลอย่างพวกวัน เวลา สถานที่ หรือหากมีรายละเอียดอื่นๆ เช่นรอบเข้าชม ราคาบัตรเข้าชมก็จะแสดงให้ดูด้วย
วิธีการทำ Rich Snippets ที่เหมาะสมในแต่ละเว็บไซต์
อย่างที่ น้องฮิปโป เคยบอกไปว่า Rich Snippets นั้นไม่มีวิธีการทำที่แน่ชัดเพราะการถูกเลือกนั่นมาจากหลายปัจจัยเอามากๆ แต่มันก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีแนวทางเอาซะเลย ด้วยสาเหตุที่การได้ขึ้นเป็น Rich Snippets หรืออันดับ 0 นี้ทำให้เว็บไซต์ได้รับความน่าเชื่อถือมากขึ้น
ทั้งยังได้โอกาสในการทำให้คนรู้จักและอยากเข้าชมเว็บไซต์ของเราด้วย ดังนั้นเรื่องของแนวทางย่อมมีอยู่บ้าง เพียงแต่แนวทางเหล่านี้ก็มาจากการคาดเดาซึ่งทำแล้วสามารถช่วยเรื่อง SEO ได้และยังได้ลุ้นด้วยว่าอาจได้ขึ้นเป็น Rich Snippets
มาดูกันว่าแนวทางสำหรับการได้เป็น Rich Snippets จะมีอะไรบ้าง
นำเสนอข้อมูลเนื้อหาอย่างตรงประเด็น
หากลองสังเกตเว็บที่ได้ขึ้น Rich Snippets ให้ดีเราจะเห็นว่า Google ได้ทำการจับเอา Keyword บางอย่างจากคำที่ User ใช้ค้นหามาใช้เป็นหนึ่งในตัวคัดเลือกแล้วจับเอาที่ตรงมากที่สุด เป็นคำตอบที่ใช่มากที่สุดขึ้นมาแสดง
ซึ่งเราจะเห็นว่ามันเป็นส่วนเนื้อหาส่วนเดียวกัน ไม่ใช่การจับประโยคมาต่อประโยคแต่อย่างใด ดังนั้นหากต้องการเป็น Rich Snippets อย่างแรกเราต้องตรงประเด็นชัดเจน หากมีคำถาม ใกล้กันก็มีคำตอบแบบนี้
นอกจากนี้ Google ยังชื่นชอบการนำเสนอแบบหัวข้อ เช่นการถามว่ามะนาวมีประโยชน์อย่างไร ส่วนที่ถูกเลือกเป็น Rich Snippets จะขึ้นมาเป็นหัวข้อพร้อมกับลิสต์ประโยชน์เรียกได้ว่าชัดเจนและตรงประเด็น
ดังนั้น เมื่อคุณมีข้อมูลเนื้อหาที่ต้องการนำเสนอให้ขึ้นเป็น Rich Snippets ก็จะต้องนำเสนออย่างเหมาะสมอาจเป็นตาราง รูปภาพ หัวข้อหรือวิดีโอ น้องฮิปโป คิดว่าหากชัดเจนและตรงประเด็นมากพอ Google ย่อมเก็บคุณเป็นตัวเลือกที่ควรพิจารณานะคะ
ตรวจเช็คเว็บของเรากับเว็บที่ได้ขึ้น Rich Snippets ว่าต่างกันอย่างไร
หากความชัดเจนและตรงประเด็นของเรายังไม่มากพอ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องออกสำรวจกันสักหน่อยแล้วว่าสาเหตุมันอยู่ที่อะไร เพราะว่าการติด Rich Snippets ไม่ใช่อันดับ มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าคุณติดอันดับที่เท่าไหร่ บางครั้ง Rich Snippets ที่ถูกยกมาอาจจะเป็นอันดับที่ 3 หรือ 4 ก็ได้ เพียงแต่เนื้อหามันใช่สำหรับ Google เท่านั้นเอง
ซึ่งเป็นเพราะความไม่แน่นอนที่เรายังไม่รู้ตรงนี้ เราจึงต้องลองเทียบดูว่าสิ่งที่เรายังขาดไปคืออะไร แต่ถึงอย่างนั้น น้องฮิปโป ก็ไม่แนะนำว่าจะต้องแก้ให้เหมือน สิ่งที่ต้องการคือแนวทางที่จะนำมาปรับใช้ อาจเป็นเรื่องของโครงสร้างการนำเสนอ หรืออาจเป็นเรื่องความกระชับอ่านง่าย จะอะไรก็ตามลองปรับกันดู ไม่แน่อาจถูกใจ Google ก็ได้
ใส่ข้อมูลเนื้อหาให้ครบตามประเภทของ Rich Snippets
อย่างที่ได้นำเสนอกันไปในหัวข้อตัวอย่างถึงประเภทการนำเสนอข้อมูลแต่ละ Rich Snippets ว่าจะมีรายละเอียดที่ยกออกมานำเสนอ นี่แหละคือสิ่งที่กำลังบอกเราว่า หากคุณใส่รายละเอียดส่วนนี้ได้ครบ หรืออาจจะบอกด้วยว่านี่เป็น Snippet แบบไหน Google อาจจะถูกใจก็ได้
เครื่องมือตรวจสอบ Rich Snippets
แม้ว่าจะมีแนวทางที่ไม่แน่นอน ปัจจัยในการติด Rich Snippets ก็ไม่แน่ชัด แต่เราสามารถตรวจสอบ Rich Snippets กันได้แล้วนะ โดยเข้าไปเช็คได้ที่ Rich Result Test
วิธีการเช็คก็คือการนำเอา URL ของหน้าเว็บไซต์ที่เราสร้างให้เกิดผล Rich Snippets นี้ลงไป เครื่องมือจะทำการประมวลผล หากขึ้นแสดงผล ก็เท่ากับว่าเราทำสำเร็จแล้ว แต่หากไม่ขึ้น ก็กลับไปตรวจกันใหม่อีกรอบว่าควรพัฒนาแก้ไขส่วนไหนต่อไป
สรุป
หากให้เทียบระหว่างการทำ SEO กับการทำ Rich Snippets น้องฮิปโป คิดว่าเราควรยกเอาความแน่นอนอย่าง SEO ขึ้นมาก่อน เพราะว่าการทำ SEO ที่ถูกต้องยังสามารถช่วยดันให้ Google เลือกหน้าเว็บของเราเป็น Rich Snippets ได้
ถึงแม้ว่าการเป็น Rich Snippets จะไม่ได้แปลว่าได้อันดับ SEO ที่ดีก็ตาม เรา เชื่อว่าคนทำ SEO ต่างก็อยากได้ตำแหน่งอันดับ 0 ที่ได้พื้นที่การนำเสนอเว็บที่มากกว่า ด้วยแนวทางที่ น้องฮิปโป ได้นำเสนอไปก็หวังว่าทุกคนจะสามารถครองพื้นที่นั้นกันได้นะคะ